ช่างก่อสร้าง ช่างรับเหมาก่อสร้าง ช่างปูนก่อฉาบนครราชสีมา ยินดีรับเหมาก่อสร้าง บ้าน บ้านปูน งานก่อฉาบ งานเทพื้น งานก่ออิฐ ก่อโครงสร้างเสาบ้าน หลังคา ช่างก่ออิฐฉาบปูนครราชสีมา งานเทปูนสแคมกีฬา งานเทพื้นธรรมดาทั้วไป เกี่ยวกับงานปูน เราบริการได้หมด เหมาทำทั้งหมด ช่างปูนงานก่อนครราชสีมา เหมาเฉพาะค่าแรง เหมาบางส่วน บริการด้วยทีมงานมืออาชีพ ราคาเป็นกันเอง เรามีทีมงานที่ได้รับการฝึกฝน มาเป็นอย่างดี ประสบการณ์กว่า10 ปี
ช่างก่ออิฐฉาบปูนครราชสีมา
ช่างปูนงานก่อนครราชสีมา
ช่างก่ออิฐฉาบปูนครราชสีมา
ช่าง ปูนครราชสีมา
ช่างฉาบปูนครราชสีมา
ช่างฉาบนครราชสีมา
รับเหมาก่อฉาบราคาถูกนครราชสีมา
เหมาก่อฉาบนครราชสีมา
ผู้รับเหมาก่อฉาบนครราชสีมา
รับเหมาก่อฉาบราคากันเองนครราชสีมา
ช่างปูนงานก่อนครราชสีมา
5 วิธีเลือกช่างปูน ต้องดูอะไร เลือกอย่างไรให้จบงานได้จริง
งานปูน อีกหนึ่งงานช่างฝีมือเฉพาะทางที่สำคัญในการทำบ้าน ช่างปูน ช่างปูนงานก่อนครราชสีมา จึงกลายมาเป็นคำตอบหลักเมื่อคุณต้องการสร้างบ้าน ซ่อมบ้าน หรือต่อเติมบ้าน เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่างานที่ว่านั้นล้วนต้องเกี่ยวข้องกับงานปูนทั้งสิ้น บทความนี้ได้รวบรวมความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับงานปูนแต่ละประเภทมาไว้ให้ เพื่อให้เข้าใจว่างานปูนแบบไหนที่ทำได้เอง และแบบไหนต้องจ้างช่างปูน รวมทั้งวิธีเลือกช่างปูนที่ช่วยให้จบงานได้จริง
ก่อนจ้างช่างปูน ทำความรู้จักประเภทงานปูน
โดยทั่วไปแล้ว งานปูนจัดเป็นหนึ่งในงานช่างฝีมือของการก่อสร้าง ช่างก่อฉาบนครราชสีมา ซึ่งสำคัญต่อการสร้างบ้านและที่อยู่อาศัยไม่ใหญ่ แม้ว่าเราต้องจ้างช่างปูนที่ชำแคญมารับผิดชอบงานที่เกี่ยวข้องอยู๋แล้ว ก็จำเป็นต้องทำความรู้จักประเภทงานช่างปูนเบื้องต้น เพื่อเอาไว้เป็นแนวทางในการจ้างช่างปูนสำหรับมาสร้างบ้านหรือต่อเติมบ้านให้เหมาะสมกับงาน โดยงานปูนแบ่งออกเป็น 6 ประเภท ได้แก่
1. งานปูนโครงสร้าง
งานปูนโครงสร้าง คืองานปูนที่เน้นเสริมสร้างโครงสร้างของเสาและคานบ้านให้แข็งแรงและเชื่อมต่อกัน ช่างปูนครราชสีมา ครอบคลุมตั้งแต่กาการลงเสาเข็ม หล่อตอม่อ เชื่อมต่อพื้นและบันไดเข้ากับเสาและคาน ขึ้นโครงหลังคา และมุงคา ซึ่งใช้เวลาเตรียมงานละเอียดพอสมควร รวมทั้งอาจต้องประเตยงานอื่นเข้ามาด้วยอย่างการเดินท่อฉีดยาฆ่าปลวก
2. งานปูนประณีต
งานปูนประณีต คืองานปูนที่เน้นสร้างความสวยงามให้กับตัวบ้าน ครอบคลุมตั้งแต่การบุฝ้าเพดาน ช่างปูนโครงสร้างนครราชสีมา ปูพื้นและบุผนัง ทาสี ติดตั้งสุขภัณฑ์ ติดตั้งวงโคม และจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ
3. งานปูนก่อสร้างและซ่อมแซม
งานปูนก่อสร้างและซ่อมแซม คืองานปูนที่เน้นการก่อสร้างและบูรณะปฏิสังขรณ์ศาสนสถานต่าง ๆ ให้ดูดี ไม่เสื่อมทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ช่างฉาบนครราชสีมา ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอารามหรือโบราณสถาน นอกจากนี้ ยังครอบคลุมถึงงานก่อสร้างบ้านเรือน ตึกอาคาร หรือสำนักงานทั่วไปอีกด้วย
4. งานปูนเฟอร์นิเจอร์
งานปูนเฟอร์นิเจอร์ คืองานปูนที่เน้นตกแต่งเครื่องเรือนที่ใช้จัดวางและตกแต่งในส่วนต่าง ๆ ของบ้าน รับเหมาก่อฉาบราคาถูกนครราชสีมา หรือเน้นทำเครื่องเรือนที่จำเป็นต้องใช้ปูนเป็นส่วนประกอบในการสร้างหรือตกแต่งขึ้นมา
5. งานปูนสุขภัณฑ์
งานปูนสุขภัณฑ์ คืองานปูนที่เน้นสร้าง ซ่อมแซม หรือตกแต่งสุขภัณฑ์โดยเฉพาะ หาช่างก่อฉาบนครราชสีมา ซึ่งอาจเป็นชุดสุขภัณฑ์ที่ทำมาจากปูนก็ได้เช่นกัน
6. งานปูนชั่วคราว
งานปูนชั่วคราว คืองานปูนที่เน้นนำมาใช้งานในการก่อสร้างเพียงชั่วคราว
งานปูนแบบไหนทำเองได้ แบบไหนควรจ้างช่างปูน
งานปูนบางประเภทก็เป็นงานที่คุณสามารถลงมือทำได้เอง โดยไม่ต้องจ้างช่างปูน ได้แก่ งานปูนเฟอร์นิเจอร์บางอย่าง และงานปูนชั่วคราว
โดยงานปูนเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ปูนสร้างเครื่องเรือนขึ้นมาประดับตกแต่งอาจต้องซื้อหาอุปกรณ์งานปูนเพิ่มเติม รวมทั้งศึกษาวิธีผสมปูนเบื้องต้นได้ เช่น กระถางต้นไม้ทำจากปูน กระถางเซรามิก ส่วนงานปูนชั่วคราวที่ทำได้ทันที ไม่ต้องมีอุปกรณ์อื่นเสริม ก็ทำได้เอง เช่น ฉาบปูนอุดรอยรั่วหรือรอยแยกเล็กใหญ่
อย่างไรก็ตาม เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นงานช่างฝีมือแล้วนั้น คงจะดีกว่าหากว่าจ้างช่างปูนมืออาชีพมาจัดการ เพราะนอกจากอุปกรณ์และการซื้อหาวัสดุคุณภาพแล้วนั้น งานปูนส่วนใหญ่จำเป็นต้องใช้ความรู้และความชำแคญเฉพาะทาง รวมทั้งทักษะในการประเตยงานก่อสร้าง เพื่อให้ได้งานที่เรียบร้อยและมีมาตรฐาน
ดังนั้น หากคุณกำลังวางแผนสร้างบ้าน ซ่อมบ้าน หรือต่อเติมบ้านครราชสีมา แล้วต้องมีงานปูนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนั้น ก็ควรว่าจ้างช่างปูนมารับผิดชอบส่วนนี้โดยเฉพาะ
ควรเลือกจ้างช่างปูนอย่างไร
การเลือกจ้างช่างปูนถือเป็นอีกงานหนึ่งที่ต้องใช้วิธีคัดกรองไม่ต่างจากการว่าจ้างช่างฝีมือด้านอื่น ๆ วิธีที่จะช่วยให้เราเลือกจ้างช่างปูนมาช่วยงานได้ตั้งแต่ต้นจนส่งมอบงาน รวมทั้งดูแความเรียบร้อยเพิ่มเติมในกรณีที่พบข้อบกพร่องของงานภายหลัง จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก ซึ่งควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้
1. คุณสมบัติ
คุณควรว่าจ้างช่างปูนที่มีความรู้และทักษะด้านงานช่างปูนและก่อสร้างระดับหนึ่ง หรือพิจารณาว่าช่างปูนที่จะจ้างนั้นเคยผ่านงานปูนแบบไหน สเกลใดมาบ้าง เพื่อจะได้ดูว่าจะรับผิดชอบงานปูนที่เราต้องการให้ทำได้สำเร็จหรือไม่
2. บริการ
งานปูนเป็นงานช่างก่อสร้างที่มีหลายประเภทและค่อนข้างกว้างพอสมควร หากงานปูนที่คุณต้องการจ้างช่างนั้นเป็นงานที่ซับซ้อนอย่างงานปูนโครงสร้างหรืองานปูนก่อสร้างและซ่อมแซม ก็ควรดูว่าช่างปูนรายนั้นให้บริการงานปูนดังกล่าวเป็นหลักอยู่แล้วหรือไม่ หรือเคยผ่านงานปูนที่เกี่ยวข้องมามากใหญ่แค่ไหน
3. การรับประกัน
เงื่อนไขการรับประกันต่าง ๆ จะเป็นตัวการันตีความมั่นใจและความปลอดภัยในการทำงาน ทำให้เชื่อได้ว่าช่างปูนจะไม่ทิ้งงานกลางคัน รวมทั้งช่วยแก้ไขปัญหาได้ในกรณีที่เกิดข้อบกพร่องบางอย่าง โดยช่างปูนควรมีประกันความรับผิดชอบต่อสาธารณะ (public liability insurance) หรือนโยบายประกันชดเชยกรณีเกิดความเสียหาย โดยผู้ว่าจ้างควรขอสำเนาเอกสารดังกล่าวจากผู้รับจ้างให้ครบถ้วน
4. คำแนะนำจากลูกค้าเก่า
รีวิวหรือคำบอกต่อจากคนใกล้ชิดก็เป็นอีกหนึ่งเสียงที่ช่วยทำให้มั่นใจได้ฝีมือช่างปูนที่จะว่าจ้างได้ หากช่างปูนคนนั้นได้รับคำชมจากลูกค้าที่ใช้บริการหรือได้รับการบอกต่อมามาก ก็ยิ่งการันตีฝีมือและความเป็นมืออาชีพในการทำงานให้สำเร็จและได้มาตรฐานอีกทางหนึ่ง
5. งบประมาณ
เงินทุนถือเป็นปัจจัยสำคัญในการคัดเลือกช่างปูนที่เหมาะกับงาน จริงอยู่ที่คนทั่วไปมักเลือกช่างปูนที่เรียกค่าจ้างอยู่ในงบประมาณที่จ่ายได้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะได้รับงานคุณภาพอย่างแท้จริง งบประมาณจึงเป็นปัจจัยที่ควรพิจารณาท้ายสุด หลังจากพิจารณาปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นแล้ว
การคมนาคม
ทางอากาศ
-วันที่ 2 กันยายน 2554 ที่ท่าอากาศยานนครราชสีมา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา บริษัท Thai Regional Aviation จำกัด ได้ทำการเปิดเที่ยวบิน สุวรรณภูมิ-โคราช-สุวรรณภูมิ บริษัทเลือกใช้เครื่องบินรุ่น Piper Navajo Chieftain ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ได้รับความนิยมสูง และ มีความปลอดภัยจากประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้เวลาในการเดินทาง 40 นาที
-วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2558 สายการบิน กานต์แอร์ ได้ทำการเปิดเที่ยวบิน จาก ท่าอากาศยานเชียงใหม่ – ท่าอากาศยานนครราชสีมา โดยทำการบิน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ( จันทร์,พุธ,พฤหัสบดี,เสาร์ ) โดยใช้เครื่องบินรุ่น ATR-72 (ปัจจุบันหยุดให้บริการในสายนี้แล้ว)
รถยนต์
จากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ มายังจังหวัดนครราชสีมาได้หลายเส้นทาง คือ
รถโดยสารประจำทาง
- เดินทางจากกรุงเทพฯ
มีรถโดยสารธรรมดา และ รถปรับอากาศชั้น 1 ชั้น 2 และรถตู้ปรับอากาศ สาย 21 (กรุงเทพฯ – นครราชสีมา) วิ่งให้บริการจาก สถานีขนส่งหมอชิต 2 กรุงเทพฯ มายังจังหวัดนครราชสีมา ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีบริษัทเอกชน ที่ได้รับสัมปทานเปิดบริการเดินรถโดยสารสาย 21 ดังนี้
รถปรับอากาศชั้น 1
-
-
- บริษัท ราชสีมาทัวร์ จำกัด
- บริษัท แอร์โคราชพัฒนา จำกัด
- บริษัท สุรนารีแอร์ จำกัด
รถปรับอากาศชั้น 2
-
-
รถตู้ปรับอากาศ (ไม่รับรายทาง)
-
-
ซึ่งจะให้บริการ รับ-ส่ง ผู้โดยสารที่สถานีขนส่งทั้งสองแห่ง คือ สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 (ถนนบุรินทร์) และ สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 (ถนนมิตรภาพ-หนองคาย) นอกจากนั้น ยังสามารถที่จะเลือกเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางจากกรุงเทพฯ ปลายทางจังหวัดต่าง ๆ ในภาคอีสานที่ผ่านจังหวัดนครราชสีมาได้
- เดินทางภายในจังหวัด
การเดินทางภายในเขตเทศบาลและพื้นที่ใกล้เคียง มีขนส่งสาธารณะให้บริการดังนี้คือ
-
-
- รถโดยสารประจำทางหมวด 1 และหมวด 4 (รถสองแถว) วิ่งบริการภายในเขตเทศบาล และ บริเวณใกล้เคียง รถโดยสารหมวด 1 แบ่งออกเป็น 21 สาย วิ่งบริการภายในเขตเทศบาลและพื้นที่ใกล้เคียงไปตามเส้นทางต่าง ๆ
- รถจักรยานยนต์รับจ้าง, รถสามล้อเครื่อง และรถสามล้อ วิ่งให้บริการผู้โดยสารภายในเขตตัวเมือง
- รถแท็กซี่มิเตอร์ (Taxi Meter) เปิดให้บริการในช่วงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 24 เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2550 เป็นจังหวัดแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีจุดจอดรถแท็กซี่อยู่ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 และศูนย์การค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา นอกจากนี้ยังสามารถเรียกใช้บริการโดยโทรศัพท์เลขหมายด่วน ปัจจุบันมีรถให้บริการทั้งสิ้นจำนวน 70 คัน
ถ้าต้องการเดินทางไปต่างอำเภอ จะมีรถโดยสารประจำทางหมวด 4 ให้บริการไปยังอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดนครราชสีมา หลายสายด้วยกัน สามารถขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งแห่งที่ 1 ถนนบุรินทร์ มีทั้งประเภทรถสองแถว และ รถบัสโดยสารประจำทางให้บริการ จะมีรถโดยสารไป อำเภอปักธงชัย อำเภอประทาย อำเภอด่านขุนทด อำเภอปากช่อง อำเภอสูงเนิน สำหรับสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 นั้น จะมีรถโดยสาร ไปเฉพาะ อำเภอพิมาย และ ด่านเกวียน, อำเภอโชคชัย
- เดินทางระหว่างจังหวัด
มีทั้งรถโดยสารประจำทางธรรมดา และปรับอากาศ หมวด 2 และ 3 จำนวนหลายเส้นทางในจังหวัดต่าง ๆ วิ่งให้บริการผ่านจังหวัดนครราชสีมาที่สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 (ถนนมิตรภาพ-หนองคาย) ทุกวัน
นอกจากนี้ มีรถโดยสารประจำทาง ให้บริการรับส่งผู้โดยสารจาก ต้นทางจังหวัดนครราชสีมา ไปยังปลายทางจังหวัดอื่น ในภาคต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
-
-
- ภาคอีสาน ได้แก่
- ภาคเหนือ ได้แก่
- ภาคกลาง ได้แก่
- ภาคตะวันออก ได้แก่
- ภาคตะวันตก ได้แก่
- ภาคใต้ ได้แก่
- เดินทางระหว่างประเทศ
-
-
- กรุงเทพฯ-นครราชสีมา – นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (กรุงเทพฯ-เวียงจันทน์ 900 บาท, นครราชสีมา-เวียงจันทน์ 540 บาท)
- เวลา 21.00 น. จากสถานีต้นทาง กรุงเทพฯ (หมอชิต 2) ถึง บขส. นครราชสีมา แห่งที่ 2 ประมาณ 23.50 น.
- เวลา 18.00 น. จากสถานีต้นทาง นครหลวงเวียงจันทน์ ถึง บขส. นครราชสีมา แห่งที่ 2 ประมาณ 1 นาฬิกา
- เที่ยววิ่งนอกวันและเวลาราชการ เก็บค่าทำการล่วงเวลา ของด่านตรวจคนเข้าเมืองคนละ 5 บาท โดยจัดเก็บที่สถานีเดินรถ
- เดินทางด้วยรถปรับอากาศ 2 ชั้น 32 ที่นั่ง มีสุขภัณฑ์ พนักงานต้อนรับ และอาหารว่าง
- ติดต่อสถานีเดินรถนครราชสีมา โทรศัพท์ 044-254964 หรือ 1490 เรียก บขส.
ในการเดินทางข้ามแดนจากจังหวัดนครราชสีมา ไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สามารถใช้หลักฐาน คือหนังสือเดินทางคือหนังสือผ่านแดน หรือหนังสือผ่านแดนชั่วคราวโดยมีแนวปฏิบัติและขั้นตอนดังต่อไปนี้
-
- 1. ใช้บัตรผ่านแดน สำหรับเดินทางเข้าประเทศลาวไม่เกิน 3 วัน 2 คืน และไม่เดินทางไปแขวงอื่น การทำบัตรผ่านแดนทำที่ศาลากลางจังหวัดที่มีชายแดนติดกับลาวโดยใช้หลักฐาน ดังนี้
- รูปถ่าย 1 นิ้ว 2 รูป
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และบัตรจริง
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- ค่าธรรมเนียม
- หากยังไม่บรรลุนิติภาวะต้องใช้สำเนาสูติบัตรด้วย
- 2. การขอวีซ่า
- ผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการของไทยได้รับยกเว้นไม่ต้องขอวีซ่า สามารถอยู่ในประเทศลาวได้ 30 วัน
- สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาต้องขอวีซ่าจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประจำประเทศไทยที่กรุงเทพฯ หรือสถานกงสุลใหญ่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่จังหวัดขอนแก่นโดยต้องใช้รูปถ่าย 1 รูป และเสียค่าธรรมเนียม 30 ดอลลาร์สหรัฐ
- สถานีขนส่งผู้โดยสาร
จังหวัดนครราชสีมา มีสถานีขนส่งผู้โดยสารที่ให้บริการแก่ผู้ที่ต้องเดินทางไปยังอำเภอ หรือ จังหวัดต่างๆ ดังนี้
สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 ตั้งอยู่เลขที่ 86 ถนนบุรินทร์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองฯ มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 7 ไร่ 2 งาน 98 ตารางวา เปิดใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 บริหารจัดการโดยเทศบาลนครนครราชสีมา ใช้เป็นสถานีขนส่งภายในจังหวัดเป็นหลัก และมีรถโดยสารปรับอากาศ สายที่ 21 กรุงเทพฯ – นครราชสีมา ให้บริการ ประกอบไปด้วย
-
-
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 24 ช่องจอด พื้นที่ 3,840 ตารางเมตร
- พื้นที่อาคารผู้โดยสาร 6,194 ตารางเมตร
ปัจจุบันสถานีขนส่งฯ แห่งที่ 1 มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการเฉลี่ยวันละ 2,000 เที่ยว/วัน หรือประมาณ 730,000 เที่ยว/ปี และมีผู้โดยสารหมุนเวียนเข้าใช้บริการเฉลี่ย 50,000 คน/วัน หรือประมาณ 18,000,000 คน/ปี
สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 ตั้งอยู่ที่ ถนนมิตรภาพ-หนองคาย ตำบลในเมือง อำเภอเมืองฯ มีเนื้อที่ 29 ไร่ 50 ตารางวา เป็นสถานีขนส่งฯที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในจังหวัดนครราชสีมาและในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้ง และดำเนินการสถานีขนส่ง คือ บริษัท ไทยสงวนบริการ จำกัด ใช้เป็นสถานีขนส่งผู้โดยสารระหว่างจังหวัดเป็นหลักเส้นทางที่สำคัญคือ สายที่ 21 กรุงเทพฯ – นครราชสีมา ประกอบด้วย
-
-
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 111 ช่องจอด พื้นที่ 17,760 ตารางเมตร
- พื้นที่อาคารผู้โดยสาร 28,416 ตารางเมตร
- ที่จอดรถส่วนบุคคลประมาณ 250 คัน และรถจักรยานยนต์ ประมาณ 1,100 คัน
ปัจจุบันสถานีขนส่งฯ แห่งที่ 2 มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการเฉลี่ยวันละ 1,300 เที่ยว /วัน หรือประมาณ 470,000 เที่ยว/ปี และมีผู้โดยสารหมุนเวียนเข้าใช้บริการเฉลี่ย 30,000 คน/วัน หรือประมาณ 11,000,000 คน/ปี
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอโชคชัย ตั้งอยู่เลขที่ 1 หมู่ที่ 12 ตำบลโชคชัย อำเภอโชคชัย มีเนื้อที่ 7 ไร่ บริหารจัดการโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เปิดดำเนินการเมื่อปี พ.ศ. 2539 ประกอบด้วย
-
-
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 16 ช่องจอด พื้นที่ 3,280 ตารางเมตร
- ที่จอดรถส่วนบุคคลประมาณ 40 คัน และรถจักรยานยนต์ ประมาณ 50 คัน
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอโชคชัย มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการวันละประมาณ 210 เที่ยว สถานีขนส่งฯ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณวันละ 2,000 คน /วัน
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอพิมาย ตั้งอยู่บริเวณตำบลในเมือง อำเภอพิมาย มีเนื้อที่ 6 ไร่ 54 ตารางวา ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้ง และดำเนินการสถานีขนส่งคือ บริษัท ไทยสงวนบริการ จำกัด เปิดดำเนินการเมื่อปี พ.ศ. 2538 ประกอบด้วย
-
-
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 18 ช่องจอด พื้นที่ 3,840 ตารางเมตร
- ที่จอดรถส่วนบุคคลประมาณ 15 คัน และ รถจักรยานยนต์ ประมาณ 25 คัน
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอพิมาย มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการวันละประมาณ 230 เที่ยว สถานีขนส่งฯ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณวันละ 2,000 คน / วัน
รถไฟ
มีรถไฟสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือกรุงเทพ – อุบลราชธานีและกรุงเทพ – หนองคายทั้งขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็วและรถธรรมดาวิ่งให้บริการจากสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ผ่านจังหวัดนครราชสีมาทุกวัน นอกจากนี้ยังมีขบวนรถท้องถิ่นวิ่งให้บริการระหว่างสถานีรถไฟนครราชสีมาไปยังสถานีรถไฟจังหวัดอื่นๆ เช่น สุรินทร์ อุบลราชธานี อุดรธานีหนองคาย และอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรีอีกด้วย
สถานีรถไฟนครราชสีมาสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครราชสีมาและในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นสถานีรถไฟชั้น 1 ตั้งอยู่ที่ถนนมุขมนตรี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา อยู่ห่างจากสถานีรถไฟกรุงเทพเป็นระยะทาง 264 กิโลเมตร
สถานที่ท่องเที่ยว